แหลมพรหมเทพ


วันนี้อากาศปลอดโปร่งดี เลยนั่งรถไปเที่ยวที่ แหลมพรหมเทพกับที่บ้าน คาดว่า่ต้องได้ภาพสวยๆ กลับมาเยอะแน่ๆ แล้วก็เป็นดังคาดได้ภาพสวยๆ มาเยอะแยะเลย

หากจะมาเที่ยวที่ แหลมพรหมเทพ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ตรวจดูสภาพรถของท่าน ให้แน่ใจเสียก่อนว่า สามารถขึ้นไปจอดรถติดขบวน กับคนอื่นเขาได้หรือไม่ (ต้องไม่ไหลลงมาชนคันอื่น หรือว่าดับกลางเนิน ให้เสียอารมณ์) เพราะเรื่องนี้ เราเคยมีประสบการณ์มาแล้ว ตอนนั้นยังเด็กมาก ไปเที่ยวแหลมพรหมเทพกับที่บ้าน นี่เลยนั่งรถจิ๊บคันเก่า สมัยสงครามโลกครั้งที่สอง(จริงๆนะ) แล้วเป็นไงล่ะพอขึ้นไปติดขบวนรถ ของนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ รถก็เลยดับบนเนิน ต้องเอาหินมากั้นล้อกันสนุกสนานมากเลยเฮ้อ...

อ่านย่อหน้าข้างบน แล้วงงใช่ไหม ว่าทำมั้ย ทำไม รถต้องติดบนเนิน ตอนขึ้นไปแหลมพรหมเทพด้วย แหม ก็ทุกคนต่างก็จะไปดูพระอาทิตย์ตกกันทั้งนั้น ใครมาภูเก็ตต้องไปชม พระอาทิตย์ตกที่ แหลมพรหมเทพ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เสียด้วย ดังนั้นพอช่วงเย็นๆ ทุกคนก็จะพร้อมใจกัน เดินทางไปแหลมพรหมเทพ โดยไม่้ต้องนัดหมาย อะแฮ่ม !!! ลากยาวมาเสียนาน จริงๆแล้ว แค่อยากบอกว่าสิ่งที่ต้องทำอีกอย่าง เมื่อจะมาเที่ยวชมพระอาทิตย์ ที่แหลมพรหมเทพก็คือ...รีบๆ มาหน่อยนะจ๊ะ เพราะอาจขึ้นถึงยอดเขา เอาตอนพระอาทิตย์ตกน้ำไปแล้ว...โฮ...โฮ...โฮ แล้วจะหาว่าไม่เตือน

บนทางเดินยาวไกล มีแมกไม้นานาพรรณ มองสีเขียวซะบ้าง จะได้สดชื่นหายเหนื่อย

ร้านขายของที่ระลึก เพียบจริงๆ ขอบอก ทั้งเปลือกหอย ไข่มุก ผ้าบาติก ไหนจะของกิน ฯลฯ สารพัดสิ่งสุดจะบรรยาย

หากกลัวว่ารีบขึ้นมาแล้วจะไม่มีอะไรทำ ก็นี่เลยเดินช้อปปิ้ง ดูของฝากไปเรื่อยๆ ข้างบนมีร้านของฝากเพียบ สินค้าก็มีทั้ง เครื่องประดับที่ทำจากเปลือกหอย ไข่มุก เครื่องแต่บ้าน ผ้าบาติก เยอะแยะไปหมด หลังจากนั้นก็เดินไปชมวิว ที่ประภาคารกาญจนภิเษกฯ ก็ยังไหว นอกจากวิวแล้วเค้ายังจัดแสดงอุปกรณ์ และเครื่องมือ เครื่องใช้ในการเดินเรือสมัยก่อนให้ชมด้วย (เข้าชมฟรี)

ประภาคารกาญจนาภิเษกฯ ด้านในเป็นห้องจัดแสดง อุปกรณ์ที่ใช้ในการเดินเรือในสมัยก่อน ส่วนด้านบนนั้น สามารถขึ้นไปชมวิวได้ วิวสวยมาก อันนี้ขอย้ำ ว่างๆ ก็หาโอกาสมาแวะชมก็แล้วกัน

อุปกรณ์ที่ใช้ในการเดินเรือในสมัยก่อน ภายใน ประภาคารกาญจนาภิเษกฯ

และแล้ว วันนี้เราก็เลย ทำตามสูตรที่บอกมาทั้งหมดนี่แหละ รีบขึ้นมาเดินช้อปปิ้ง และชมวิวก่อนใครเพื่อน (ข้อดีอีกอย่างคือ ถ้ามาเร็วหน่อย คนจะไม่เยอะ โล่งสบายดี) วิวทิวทัศน์บนแหลมพรหมเทพนั้น สวยทุกมุมเลยก็ว่าได้ บางมุมของที่นี่ เราเคยถ่ายรูปแล้วไปโชว์เพื่อน เค้ายังนึกว่าไปถ่ายจากเมืองนอกมาเลย

วิวสวยๆ จากเมืองตากอากาศระดับโลก

ชาวภูเก็ตไม่ง้อน้ำมันหรอก เชอะ นี่... เรามีไฟฟ้าพลังลม ใช้แล้ว!!! แหม...พูดเล่นนะ เพราะตอนนี้กำลัง อยู่ระหว่าง ทดลองใช้ (แต่คงเป็นจริง ในอนาคตอันใกล้นี้)

ภาพถ่ายจาก ประภาคารกาญจนาภิเษกฯ "ใครว่าภูเก็ตไม่เขียวขจี"

เดินไปเดินมาแป็บเดียว ก็ถึงเวลาดูพระอาทิตย์ตกแล้ว ทุกคนต่างก็ลุ้นกันใหญ่... เพี้ยง อย่าให้มีเมฆหมอกมาบังเลย... เวลาดวงอาทิตย์ตกเนี่ยจะมีลูกสีส้มๆ น่าทานมาก (เห็นแก่กินไปมั้ยเนี่ย) ช่วงกลางๆ เนี่ยใช้เวลานานมากกว่าจะเลื่อนลงมาได้ แต่พอถึงช่วงท้ายๆ พระอาทิตย์ใกล้จะลงไปเล่นน้ำแล้วนั้น ใช้เวลาแป็บเดียวเอง เคยมีคนเค้าบอกว่า แค่ปลอกกล้วยเข้าปาก ยังไม่ทันพระอาทิตย์ตกเลย (ขู่ไว้ก่อนว่า อย่าคลาดสายตานะ เดี๋ยวอดดูของดี)

พระอาทิตย์ตกน้ำ ที่แหลมพรหมเทพ

ทานอาหารตาจนอิ่มตาอิ่มใจแล้ว แต่ท้องมันก็ยังร้องว่าหิว (ตามประสาอวัยวะ ที่ขยันที่สุดของเรา) ขากลับจึงต้องแวะทานซีฟู้ด ที่ร้านอาหารในซอยป่าหลาย ในนั้นมีอาหารซีฟู้ดสด อร่อย สะอาดมากมาย รอเราอยู่ ทั้งที่ ร้านอาหารโพงพาง และที่ ร้านอาหารพรานทะเล เป็นไงละ ฟังชื่อก็อื้อ ฮือกันแล้ว เอาละขอจบแค่นี้เลยแล้วกัน ขอพักรับประทานอาหารสักครู่ แต่คงต้องหลังจาก ห้ามมวยเสร็จก่อนนะ เพราะคณะทัวร์ผู้มีเกียรติทั้งหลาย ยังตกลงกันไม่ได้เลยว่า ไปร้านไหนดี แต่ไม่เป็นไรยังไงเราก็คง อิ่มฟรีเหมือนเดิม แฮ่...แฮ่...

บรรยากาศ ร้านอาหารริมทะเล ในซอยป่าหล่าย